ทำอย่างไรให้คุณกลายเป็นแบรนด์ ตอนที่ 2

 

หลังจากที่ค้นหาตัวตนเจอแล้ว ก็จะเป็นการนำสิ่งนั้นมาต่อยอดใน 2 เรื่องคือ

 

การสร้างเสน่ห์ให้กับคุณด้วยสารรูป ถ้าเป็นภาษาแบรนด์ เขาจะเรียกกันว่า Brand Identity เปรียบเทียบง่ายๆอย่างนี้ครับ เวลาผู้ชายสนใจผู้หญิงสักคน ส่วนใหญ่จะถูกมนตร์สะกดด้วยรูปร่าง หน้าตา ทรวดทรงองค์เอวก่อน หรือเรียกรวมๆ ว่า สารรูป แบรนด์บุคคลก็เช่นกัน คุณอาจจะต้องออกแบบแบรนด์ของคุณก่อน

 

วิธีที่ 1 การออกหน้าออกตาออกตัวสู่สาธารณะ ก็ต้องหาสไตล์ของตัวเอง แต่ขอบอกนะครับว่า อย่าหลุดจากตัวตนที่เป็น สไตล์การพูด สไตล์การแสดงออก การแต่งตัว ภาษาที่ใช้ บางคนอาจจะมีท่าทางเฉพาะที่เป็นเสมือนลายเซ็นของตัวเอง คำหรือข้อความติดปาก สโลแกนประจำตัว การสร้างเอกลักษณ์ด้านเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด เสียงเพลงประจำตัว เสียง Sound Effect ในกรณีที่คุณนำเสนอแบรนด์บุคคลของคุณเองผ่าน Video Content

วิธีที่ 2 การปิดหน้าปิดตาปิดตัวไม่ให้ใครรู้ แต่สื่อสารผ่าน Brand Character ถ้าให้เห็นภาพชัดๆ ขอให้นึกถึง อีเจี๊ยบเลียบด่วน JaytheRabbit การนำเสนอแบบนี้คือ การไม่เปิดเผยตัว ทำให้เราสามารถสร้าง ปลดปล่อยบุคลิก วิธีคิด วิธีพูดได้อย่างเต็มที่ หรือทำตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำหน้าที่ขับเคลื่อน Brand Character ที่สร้างขึ้นมา

 

การสร้างเสน่ห์ให้กับคุณด้วยสาระ ถ้าเป็นภาษาแบรนด์จะเรียกกันว่า Brand Essence หรือ Brand DNA ซึ่งก็คือ ตัวตนของแบรนด์ เหมือนที่เปรียบเทียบในส่วนของผู้ชายจีบผู้หญิง จะเริ่มต้นที่สารรูปก่อน จากนั้นก็จะหาทางเข้าไปพูดคุยสนทนาด้วย ผู้ชายก็จะทราบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนอย่างไร ตัวตนเป็นเช่นใดซึ่งก็คือ สาระ นั่นเอง ดังนั้นแบรนด์บุคคล ก็ต้องมีความชัดเจนในด้านสาระ เพื่อให้ผู้คนนึกถึงหรือเชื่อมโยงถึงแบรนด์บุคคลของคุณ เช่น ความเป็นแบรนด์ Woody คือ ความกล้าถามในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าถาม Brand DNA หรือสาระของแบรนด์ จะเป็นตัวควบคุมทิศทางแบรนด์ว่า เราควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร จำไว้ว่าเราไม่สามารถเป็นทุกอย่างในโลกได้ เราต้องมีความแตกต่างและความแตกต่างนั้นต้องถูกจริตกับผู้คนด้วย